ข้อมูลเกี่ยวกับผ้ามัดหมี่
คำว่า “ มัดหมี่ ” เป็นศัพท์เทคนิคในภาษาอังกฤษ ตรงกับคำว่า “lkat” เดิมเป็นภาษาอินโดนีเซีย
คำว่ามัดหมี่ หมายถึงลวดลายที่ปรากฏบนผืนผ้าหลังจากการทำมัดลายในส่วนของด้ายเส้นพุ่งด้วยเชือกก่อนที่จะนำไปย้อมสีกลุ่มชนบางกลุ่มอันได้แก่ตระกูลไทไม่นิยมทำให้เกิดลวดลายมัดหมี่ที่ด้ายเส้นยืน ยกเว้นชาวไทยวนที่ อ.แม่แจ่มจะมีการทอผ้าซิ่นแบบลัวะโดยทำให้เกิดลวดลายตามที่ต้องการที่เส้นพุ่งก่อนนำไปทอเป็นผืนผ้ามัดหมี่ เป็นผ้าทอที่ทอตามลายหมี่ต่างๆ และสามารถนำ ไหม ฝ้าย โทเร เส้นใยสังเคราะห์ต่างๆที่ทนความร้อนมาทอเป็นผ้ามัดหมี่ คำว่ามัดหมี่เปรียบได้จากศิลปะการทอผ้าโดยใช้เทคนิคการทอผ้าที่ใช้เทคนิคที่รู้จักกันโดยทั่วไปคือ มัด-ย้อม จากหลักการที่ว่าส่วนที่ไม้ต้องการให้ติดสีย้อมจะใช้เชือกมัดเป็นกระเปาะหรือเป็นข้อๆให้แน่น ถ้าลวดลายมีความซับซ้อนช่วงมัดจะต้องถี่กว่าเดิมและถ้ามีสีหลายสีจะต้องมัดย้อมหลายครั้ง ในการกำหนดว่าจะมัดที่ตำแหน่งใดบ้างจะต้องมีการออกแบบไว้ล่วงหน้าการมัดเส้นใย เพื่อสร้างลวดลายก่อนทอและย้อมสี เวลาย้อมส่วนที่มัดจะไม่ถูกติดสีจึงทำให้เกิดลวดลาย หากต้องการทำให้เป็นลายหลายสีจะต้องมัดและย้อมหลายๆครั้งจนได้สีครบตามที่ต้องการ ถ้าเป็นมัดหมี่ลายเส้นยืนจะต้องกำหนดความยาวของผ้าบนหลักหมี่ด้ายเส้นยืน ถ้าเป็นมัดหมี่ด้ายเส้นพุ่งจะต้องกำหนดความยาวของผ้าบนหลักหมี่ด้ายเส้นพุ่งสามารถทำซ้ำไปซ้ำมาได้หลายๆครั้งโดยไม่ต้องจำกัดความยาวของผ้า
จากที่กล่าวมาแล้วสรุปได้ว่าคำว่า “มัดหมี่” เป็นวิธีการมัดย้อมให้เกิดเป็นลวดลาย มัดหมี่ด้ายเส้นยืนอาจเป็นเทคนิคที่มีมีก่อน มัดหมี่ด้ายเส้นพุ่งก็เป็นเพียงการสันนิษฐานเพราะยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด
มัดหมี่เส้นพุ่งเหมาะสำหรับการทอฝ้ายหรือเส้นใยพืชอื่นๆ จะนิยมใช้สีธรรมชาติในการย้อมและเหมาะสมที่สุดสีที่นิยมใช้ที่สุดคือสีคราม โดยใช้กับสีธรรมชาติหรือสีขาว มัดหมี่จากด้ายเส้นพุ่งที่นิยมใช้จะทำมาจากด้ายสีเขียว ที่เกิดจากสีเหลืองขมิ้นผสมกับสีครามจาง และสีแดงจากครัง สำหรับสีส้ม เขียว และสีม่วงเกิดจากการย้อมทับกัน
มัดหมี่แบ่งเป็น 3 ชนิดคือ
1.มัดหมี่เส้นพุ่ง (Warp Yarn)
2.มัดหมี่เส้นยืน (Weft Yarn)
3.มัดหมี่เส้นพุ่งและเส้นยืน (Double Yarn)
ในส่วนของประเทศไทยจะนิยมผ้ามัดหมี่เส้นพุ่งเป็นส่วนใหญ่ ส่วนมัดหมี่เส้นยืนจะนิยมทำกันบาง
พื้นที่ เช่น เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบุรี ราชบุรี กลุ่มชนที่นิยมทอผ้ามัดหมี่มักจะเป็นชาวเขาและ
ลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของผ้าทอมัดหมี่คือรอยซึมของสีที่วิ่งไปตามบริเวณของลวดลายที่ถูกมัดด้วยเชือกหรือวัสดุอื่นๆที่ไม่ติดสี การเหลื่อมล้ำในตำแหน่งของเส้นด้าย จะทำให้เกิดลักษณะที่คลาดเคลื่อนของสีและต่างจากผ้าทอชนิดอื่น การใช้ความแม่นยำในการมัดย้อมและการขึ้นด้ายบนกี่และการทอจะลดความคลาดเคลื่อนลงหรือใช้การเหลื่อมล้ำนี้เป็นส่วยหนึ่งของการออกแบบและถือเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของผ้ามัดหมี่
ประโยชน์ที่ได้รับ
ได้รู้เกี่ยวกับผ้ามัดหมี่ รู้ประโยชน์ของผ้ามัดหมี่
มัดหมี่ เป็นกรรมวิธีการทอผ้าแบบหนึ่ง ที่อาศัยการย้อมเส้นด้ายก่อนการทอ ทั้งที่ย้อมเฉพาะด้ายพุ่ง และย้อมด้ายยืน เพื่อให้เมื่อทอผ้าออกม้าเป็นผืนแล้ว เกิดเป็นลวดลายและสีสันตามที่ต้องการ เดิมนั้นนิยมใช้เส้นไหม แต่ปัจจุบันพบการมัดหมี่ทั้งเส้นไหม ฝ้าย และเส้นใยสังเคราะห์
คำว่า "มัดหมี่" มาจากกรรมวิธีการ "มัด" เส้นด้ายเป็นกลุ่มๆ ก่อนการย้อมสี ส่วน "หมี่" นั้น หมายถึงเส้นด้าย การมัดหมี่ใช้ขั้นตอนยุ่งยาก ตั้งแต่การเตรียมเส้นด้าย และมัดเพื่อย้อมสีเป็นช่วงๆ กระทั่งได้สีที่ต้องการครบถ้วย ซึ่งต้องย้อมหลายครั้งด้วยกัน ในภาคเหนือนิยมเรียกว่า มัดก่าน ในต่างประเทศนิยมใช้คำว่า ikat ซึ่งเป็นคำศัพท์ภาษาอินโดนีเซีย-มลายู
อาจมีความสับสนระหว่างคำว่า มัดหมี่ และ มัดย้อม ซึ่งพบได้มากในปัจจุบัน กล่าวคือ มัดหมี่ นั้นเป็นการมัดเส้นด้ายเพื่อนำมาใช้ทอ มีหลากสี และมีลวดลายที่ละเอียด ส่วน มัดย้อม นั้น เป็นการนำผ้าสำเร็จมามัดแล้วย้อมสี (มักจะย้อมครั้งเดียว สีเดียว) มีลวดลายขนาดใหญ่ ไม่เน้นลักษณะของลวดลายให้ชัดเจนนัก
ผ้ามัดหมี่พบได้ในหลายภูมิภาคในทวีปเอเชีย (อินเดีย จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ไทย ลาว เป็นต้น) และอเมริกาใต้ (อาร์เจนตินา,เม็กซิโก, กัวเตมาลา เป็นต้น) แต่ชาวตะวันตกมักรู้จักผ้ามัดหมี่ของมาเลย์-อินโดนีเซีย และเรียก "ikat" ตามไปด้วย
ผ้ามัดหมี่ในประเทศไทยพบได้มากในภาคอีสาน โดยการมัดเป็นลวดลาย เช่น ลายนาค ลายโคม สัตว์ ดอกไม้ ใบไม้ ฯลฯ โดยนิยมมัดเฉพาะเส้นพุ่ง อย่างไรก็ตาม ในหมู่ช่างทอแถบอีสานใต้ เช่น จังหวัดสุรินทร์ มีการทอผ้าที่มัดทั้งด้ายยืนและด้ายพุ่ง เกิดเป็นลายตาราง หรือกากบาท
ผ้าจากการมัดหมี่ อาจทอด้วยกรรมวิธีการทอสองตะกอตามปกติ หรือทอสามตะกอ เพื่อให้ได้ลวดลายในเนื้อผ้าที่ละเอียดเพิ่มขึ้นก็ได้
เพิ่มเติมบทความ
shttp://ich.culture.go.th/index.php/th/ich/traditional-craftsmanship/241-craft/75-----m-s