เส้นใยโพลีเอสเตอร์ถูกค้นพบขึ้นโดย Dr. W.H. Carothers ชาวสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 ซื่งเป็นผู้ค้นพบเส้นใยไนลอน ต่อมานักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษได้ทำการศึกษาค้นคว้าต่อจน ผลิตเส้นใยโพลิเอสเตอร์ชนิดแรกได้ โดยใช้ชื่อว่า Terylene ในปี ค.ศ. 1941 ต่อมาในปี ค.ศ. 1946 บริษัทดูปองได้ขอซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้ชื่อว่า Dacron (แดครอน) เส้นใยโพลิเอสเตอร์จึงได้ รับความนิยมเป็นอย่างกว้างขวางและรวดเร็วกว่าเส้นใยสังเคราะห์ชนิดอื่น ๆ
โพลิเอสเตอร์เป็นเส้นใยที่ผลิตจากปฏิกริยาPolymerizationของ Dihydric alcohol และ Dicarboxylic acid ดังตัวอย่างปฏิกริยาที่เกิดจากการใช้ Ethylene glycol และ Terephthatic acid
เมื่อรวมสารเคมีดังเกล่าในกระบวนการผลิต (Polymer repeat unit) ประมาณ 80-100 หน่วย จึงจะได้โพลิเอสเตอร์ที่ทำเป็นเส้นใยได้ โพลิเอสเตอร์ที่ได้จากการผลิตในชั้นต้นจะผ่านออกมาเป็นเส้น แล้วถูกตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เมื่อต้องการทำเป็นเส้นใยก็จะต้องนำไปหลอมเหลว แล้วกดผ่านแว่น Spinnerette เส้นใยที่กดออก มากระทบอากาศก็จะแข็งตัว จากนั้นก็นำไปดึงยืดเพื่อให้เส้นใยมีความเหนียวแข็งแรง
เส้นใยโพลิเอสเตอร์ไม่ทนต่อด่างแก่และกรดแก่ ทำให้เส้นใยลดความแข็งแรงลง ถ้าสารเคมีมีความเข้มข้น และมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจะทำให้เส้นใยขาดได้ สารอินทรีย์ที่สามารถทำให้เส้นใยละลายได้ คือ เมต้าครีซอลฟีนอล ใยโพลิเอสเตอร์เป็น Oleophilic fiber ดูดซับนัำมันไว้ได้ดี
สารฟอกขาว สบู่ ผงซักฟอก ไม่ทำให้เส้นใยเสียหาย ทนต่อแสงแดด เก็บไว้นานมอด แมลง และเชื้อราก็ไม่ทำอันตราย
ผ้าที่ผลิตจากเส้นใยโพลิเอสเตอร์นั้นได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดากลุ่มเส้นใยสังเคราะห์อื่นๆ โพลิเอสเตอร์มีชื่อการค้าหลายชื่อขึ้นอยู่กับประเทศและบริษัทผู้ผลิต เช่น Dacron, Avlin, Encron, Kodel, Trevira, Vycron โพลิเอสเตอร์ที่ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาเรียกว่า Terylene ผลิตในประเทศอังกฤษเรียกว่า Tetoron ส่วนโพลีเอสเตอร์ที่ผลิตในญี่ป่น เรียกว่า Toray (โทเรย์)
คุณสมบัติที่ดีของเส้นใยโพลิเอสเตอร์นั่นก็คือการที่ไม่ยับง่าย สวมใส่สบาย ดูแลรักษาง่าย เป็นเส้นใยประเภท Wash and Wear นอกจากจะผลิตเป็นผืนผ้าที่ได้จากเส้นใยโพลิเอสเตอร์อย่างเดียวแล้ว ยังนิยมนำเส้นใยโพลิเอสเตอร์ผสมกับเส้นใยชนิดอื่น เช่น เรยอน ไหม ฝัาย ลินิน ขนสัตว์ เป็นต้น และมักจะใช้ประมาณไม่ตำกว่า 60% เซ่น โพลิเอสเตอร์ 65% ฝัาย 35%
การที่นำเส้นใยโพลิเอสเตอร์ผสมกับเส้นใยชนิดอื่นๆ เพื่อให้ผ้าทีได้จากเส้นใยผสมมีคุณสมบัติดีขึ้น ทั้งในด้าน ความสวยงาม ความคงทนและความเหมาะสมต่อประโยชน์ในการใช้สอย ผู้ที่ผลิตผืนผ้าจากเส้นใยโพลิเอสเตอร์ และผ้าที่ผลิตจากเส้นใยผสมที่มีเสันใยโพลิเอลเตอร์อยู่ด้วยนั้น สามารถผลิตได้ทั้งผ้าเนื้อบางเบา จนถึงผ้าเนื้อหนาๆที่ใช้ตัดเสื้อ กระโปรง กางเกง และสูท เป็นต้น
การทำคาามสะอาดสามารถซักได้ทั้งการซักน้ำและซักแห้ง สามารถใช้กับผงซักฟอก สบู่ สารฟอกขาวทุกชนิด ถ้าซักน้ำไม่ควรบิดเพื่อให้แห้ง แต่ควรจะสลัดน้ำออก ซึ่งจะต้องตากให้แห้งในทีร่มหรือแดดอ่อนๆ ไม่จำเป็นตัองรีด ถ้าเปื้อนไขมันควรลบรอยเปื้อนด้วยแชมพูสระผมก่อน จึงนำไปซักด้วยวิธีธรรมดาจะสามารถทำให้รอยเปรอะเปื้อนนั้นๆออกได้ง่ายขึ้น
1. ยืดหยุ่นดี ไม่ยับง่าย
2. ย้อมสีติดยาก ดูดซึมความชื้นได้ต่ำ
3. คงรูปคงขนาดดี ขณะเป็นของเหลว
4. ซักได้ทั้งซักเปียกและซักแห้ง
5. ซักง่าย แห้งเร็ว
6. ไวต่อความร้อน
7. ไม่ต้องรีด
8. ทนต่อการขัดสีได้ดี
9. เมื่อเปื้อนไขมันซักออกยาก
10. มีความเหนียวทนทาน
11. ผ้าที่ทอจากใยสั้น เนื้อผ้า คงสภาพรูปร่างได้ดี
credit: http://www.tex-press.com/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B9%8C%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2/%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2-polyester/https://www.ruedee.com/th/fabric/polyester/